รูปลักษณะ
ผนังร่องลึกก้นสมุทรด้านในเป็นขอบของแผ่นเปลือกโลกที่กำลังขี่ทับอยู่และเป็นด้านนอกสุดของส่วนด้านหน้าหมู่เกาะรูปโค้ง ส่วนด้านหน้าหมู่เกาะรูปโค้งประกอบไปด้วยเปลือกโลกที่เป็นหินอัคนีและหินแปรและแผ่นเปลือกโลกนี้ทำตัวเป็นส่วนที่ยื่นค้ำออกไปของการตกตะกอนรูปลิ่มแบบปริซึม (accretionary prism) (ตะกอนที่ครูดออกจากแผ่นเปลือกโลกที่กำลังมุดตัวลงไปลงบนผนังของร่องลึกก้นสมุทรด้านในทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีตะกอนมากน้อยแค่ไหนที่จะตกเข้าไปในร่องลึกก้นสมุทร) ถ้าปริมาณตะกอนมีมากตะกอนจะถูกเคลื่อนย้ายถ่ายเทจากแผ่นเปลือกโลกที่กำลังมุดตัวลงไปไปที่แผ่นเปลือกโลกที่กำลังขี่ทับอยู่ด้านบน ในกรณีนี้การตกตะกอนรูปลิ่มแบบปริซึมจะมีการเติบโตและตำแหน่งของร่องลึกก้นสมุทรจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างก้าวหน้าจากแนวหมู่เกาะรูปโค้งตลอดอายุขัยของการเคลื่อนที่ลู่เข้าหากันของขอบเปลือกโลก การเคลื่อนที่ลู่เข้าหากันของขอบเปลือกโลกพร้อมกับการสะสมตัวของตะกอนรูปลิ่มแบบปริซึมจะเรียกว่าขอบของการลู่เข้าหากันที่มีการสะสมตัวของตะกอนรูปลิ่มแบบปริซึมและเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งในบรรดาขอบของการลู่เข้าหากันทั้งหมด ถ้าปริมาณของตะกอนมีน้อยตะกอนจะถูกเคลื่อนย้ายจากแผ่นเปลือกโลกที่ขี่ทับอยู่ด้านบนไปยังแผ่นเปลือกโลกที่กำลังมุดตัวอยู่โดยกระบวนการละลายหายไปทางเทคโทนิกที่รู้จักกันว่าการกัดเซาะจากการมุดตัว (subduction erosion) และจะถูกตกลงไปในโซนมุดตัว ส่วนด้านหน้าหมู่เกาะรูปโค้งที่ประสบกับการกัดเซาะจากการมุดตัวปรกติจะมีหินอัคนีดันตัวขึ้นมา ในกรณีนี้ตำแหน่งของร่องลึกก้นสมุทรจะเคลื่อนไปทางด้านหน้าของแนวหินหนืดรูปโค้งตลอดอายุขัยของการเคลื่อนที่ลู่เข้าหากันของขอบเปลือกโลก ขอบการลู่เข้าหากันที่กำลังเกิดการกัดเซาะจากการมุดตัวจะเรียกว่าขอบของการลู่เข้ากันที่ไม่มีการตกสะสมตัวของตะกอนรูปลิ่มแบบปริซึมและจะเป็นรูปแบบนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของขอบเขตแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนที่ลู่เข้าหากัน นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายๆมากเพราะว่าส่วนที่แตกต่างกันของขอบของการลู่เข้าหากันสามารถประสบกับการพอกพูนของตะกอนและการกัดเซาะทำลายจากการมุดตัวตลอดอายุขัยของมัน
ลักษณะภาคตัดขวางของร่องลึกก้นสมุทรที่ไม่สมมาตรแสดงให้เห็นความแตกต่างขั้นพื้นฐานในชนิดของวัตถุและวิวัฒนาการทางเทคโทนิก ผนังด้านนอกของร่องลึกก้นสมุทรและการพองตัวออกด้านนอกรวมไปถึงพื้นมหาสมุทรนั้นจะใช้ระยะเวลา 2 - 3 ล้านปีที่จะเคลื่อนที่จากที่การแปรสภาพอันเกิดจากการมุดตัวเริ่มต้นขึ้นที่ใกล้ๆกับการขยายตัวของร่องลึกก้นสมุทรด้านนอกไปจนกระทั่งจมลงไปในร่องลึกก้นสมุทร ในทางตรงกันข้ามผนังด้านในของร่องลึกก้นสมุทรจะถูกแปรสภาพโดยปฏิสัมพันธ์ของแผ่นเปลือกโลกตลอดช่วงเวลาของขอบเปลือกโลกที่เคลื่อนที่ลู่เข้าหากัน ส่วนด้านหน้าหมู่เกาะรูปโค้งจะมีสภาพขึ้นอยู่กับแผ่นดินไหวที่เกี่ยวข้องกับการมุดตัว การแปรสภาพด้วยการขยายตัวออกและการสั่นไหวนี้เกิดขึ้นโดยที่พื้นลาดเอียงของร่องลึกก้นสมุทรด้านในมีมุมลาดเอียงที่ทำให้มีการคงสภาพอยู่ได้ของวัตถุใดๆที่เป็นองค์ประกอบ เพราะว่ามันประกอบด้วยหินอัคนีแทนที่จะเป็นตะกอนที่แปรสภาพ ร่องลึกก้นสมุทรที่ไม่มีการพอกพูนของตะกอนจะมีผนังด้านในชันกว่าร่องลึกก้นสมุทรที่มีการพอกพูนของตะกอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น